ยอดทีมที่เคยคว้าแชมป์ลีกผู้ดี 3 สมัยติดต่อกัน
ยอดทีมที่เคยคว้าแชมป์ลีกผู้ดี 3 สมัยติดต่อกัน
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จารึกประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นสโมสรที่ 5 ในตลอดระยะเวลา 135 ปีของฟุตบอลอังกฤษที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดสามสมัยติดต่อกัน สำหรับ กวาร์ดิโอลา นั่นหมายถึงการเทียบเคียงกับผู้จัดการทีมในอดีต เช่น เฮอร์เบิร์ต แชปแมน, บ็อบ เพสลีย์ และ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ 3 ครั้งติดต่อกัน
ฮัดเดอร์สฟิลด์ (1924 ถึง 1926)
ฮัดเดอร์สฟิลด์ทาวน์ แซงหน้า คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ด้วยไทเบรกเกอร์ ‘ค่าเฉลี่ยประตู’ แบบเก่า จำนวนประตูที่ทำได้หารด้วยจำนวนที่เสีย (1.82 ถึง 1.79) ซึ่งตรงข้ามกับจำนวนผลต่างประตูได้เสียที่ลบประตูที่เสียเพื่อคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ในปี 1923- 24 หลังจากทั้งคู่จบด้วย 57 คะแนนในยุคสองแต้มเพื่อชัยชนะ จากนั้นพวกเขาก็ทุบ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน อย่างหวุดหวิด 58 คะแนนต่อ 56 เพื่อรักษาตำแหน่งในอีกหนึ่งปีต่อมา อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการทีม เฮอร์เบิร์ต แชปแมน ได้ลาออกในช่วงซัมเมอร์นั้นเพื่อย้ายไปคุม อาร์เซน่อล แม้ว่าพวกเขาจะต้องหนีการตกชั้นได้ยากลำบากในสองฤดูกาลก่อนหน้านี้ ทำให้สโมสรยอร์กเชียร์ เข้าสู่ความสับสนอลหม่าน เซซิล พอตเตอร์ เข้ามาช่วยในปี 1925-26 โดยก้าวเข้ามาและนำฮัดเดอร์สฟิลด์ ไปสู่แชมป์ที่สามติดต่อกันและล่าสุดคือแชมป์ อาร์เซน่อล ของ แชปแมน จบอันดับสองโดยมีแต้มห่างกันเพียงห้าแต้ม
อาร์เซน่อล (1933 ถึง 1935)
อาร์เซน่อล บริหารงานโดย แชปแมน และได้รับแรงบันดาลใจจากปีกซ้าย คลิฟฟ์ บาสติน คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ในปี 1932-33; พวกเขายิงได้ 118 ประตู ซึ่งยังคงเป็นจำนวนประตูรวมสูงสุดเป็นอันดับสามในประวัติศาสตร์ของลีกสูงสุดอังกฤษ โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นในฤดูกาลถัดมา เมื่อ แชปแมน เสียชีวิตในเดือนมกราคม ด้วยวัยเพียง 55 ปี ด้วยโรคปอดบวม โดยมี โจ ชอว์ ผู้จัดการทีมสำรองรับหน้าที่ดูแลแทน สโมสรจากลอนดอนเหนือฟื้นตัวจากอาการช็อคโดยไล่ต้อน ฮัดเดอร์สฟิลด์ 59 แต้มต่อ 56 แต้มและรักษาตำแหน่งแชมป์ไว้ได้ จอร์จ อัลลิสัน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นบรรณาธิการโปรแกรมแมตช์เดย์ของสโมสร จากนั้นเข้ามารับช่วงต่อในซัมเมอร์นั้นและพาพวกเขาคว้าแชมป์สมัยที่สามติดต่อกันในปี 1934-35
ลิเวอร์พูล (1982 ถึง 1984)
อีกหนึ่งแฮตทริกของตำแหน่งแชมป์ลีกซึ่งมีการเปลี่ยนผู้จัดการทีมด้วย ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ในปี 1981-82 และ 1982-83 ภายใต้การคุมทีมของ บ็อบ เพสลีย์ โดยได้ประตูเป็นกอบเป็นกำจาก เอียน รัช และเคนนี่ ดัลกลิช จากนั้น เพสลีย์ เกษียณในช่วงฤดูร้อนปี 1983 และถูกแทนที่โดยผู้ช่วย โจ ฟลาแกน ซึ่งพาพวกเขาคว้าแชมป์ ลีกซึ่งเป็นครั้งที่สามติดต่อกัน และปิดท้ายด้วยการคว้า แชมป์ยูโรเปี้ยนส์คัพ ในฤดูกาลนั้นด้วย
แมนฯ ยูไนเต็ด (1999 ถึง 2001)
แชมป์สามรายการติดต่อกันครั้งแรกในยุคพรีเมียร์ลีกคือความสำเร็จของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุคของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ครั้งแรกด้วยการครองแชมป์ลีกเหนือ อาร์เซน่อล ในฤดูกาล 1998-99 ช่วยให้พวกเขากลายเป็นทีมอังกฤษทีมเดียว (สำหรับตอนนี้) ที่คว้าเทรเบิลแชมป์ได้ ประกอบด้วย พรีเมียร์ลีก เอฟเอคัพ และแชมเปียนส์ลีก หลังจากนั้นพวกเขารักษาตำแหน่งแชมป์ในประเทศด้วยครองแชมป์ติดต่อกันอีกสองครั้ง โดยที่ อาร์แซน เวนเกอร์ และทีมของเขาเป็นรองแชมป์อีกทั้งสองครั้ง
แมนฯ ยูไนเต็ด (2007 ถึง 2009)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมที่ยอดเยี่ยมโดยมีหัวหอกอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ และ เวย์น รูนีย์ โดยทั้งคู่ช่วยกันพาถล่มประตูเป็นว่าเล่นพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้สามครั้งติดต่อกันในช่วงปลายยุค 2000 โดยเก็บได้อย่างน้อย 87 คะแนนในแต่ละฤดูกาล ทีมของ เฟอร์กูสัน นำหน้า เชลซี ซึ่งตามหลังอยู่ 6 และ 2 แต้ม ใน 2 แคมเปญแรก โดยสมัยที่สามมี ลิเวอร์พูล ตามหลังอยู่ 4 แต้ม รองเป็นรองแชมป์ นอกจากนั้นพวกเขายังคว้า แชมป์แชมเปียนส์ลีก ด้วยในช่วงกลางฤดูกาลของฤดูกาลนั้น เพื่อตอกย้ำชื่อเสียงในฐานะหนึ่งในทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคปัจจุบัน
แมนฯ ซิตี้ (2021 ถึง 2023)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ฟื้นตัวจากการเสียแชมป์ให้ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลที่ขยายเวลาการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิดเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยสามารถคว้าแชมป์ในฤดูกาล 2020-21 ซึ่งนำทีมอันดับสองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 12 แต้ม ก่อนจะมาฟาดฟันกับ ลิเวอร์พูล เมื่อเดือนพฤษภาคม โดยในนาทีสุดท้ายของเกมนัดสุดท้ายพวกเขาทำประตูสำคัญได้ทำให้ ซิตี้ ทำคะแนนเฉือนชนะ หงส์แดง เพียงแต้มเดียวเป็นแชมป์ลีกสมัยสองติดต่อกัน และฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล เริ่มต้นด้วยการนำด้วยคะแนน 50 แต้มในช่วงครึ่งทาง แต่ ซิตี้ ก็แซงพวกเขาได้ในท้ายที่สุด ต้องขอบคุณการทำประตูอันน่าทึ่งของกองหน้าคนใหม่อย่าง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ที่พาทีมทำแฮตทริกแชมป์ลีกได้สำเร็จด้วย และยังเป็นแชมป์ลีกสมัยที่ 5 ของพวกเขาในรอบ 6 ปีและสมัยที่ 7 ในรอบ 12 ปีที่ผ่านมา
READ MORE :: ข่าวฟุตบอลออนไลน์
RELATED :: ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ