10 อันดับนักเตะฮอลแลนด์ที่มีค่าตัวสูงที่สุด
ประเทศ ฮอลแลนด์ นั้นถือเป็นประเทศที่มีนักฟุตบอลฝีเท้าดีมากมายตั้งแต่อดีตจนถึงในตอนปัจจุบัน และประเทศพวกเขาก็มีสโมสรที่ปั้นดาวรุ่งได้อย่างมากมายเช่น เฟเยนูร์ด, พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น รวมทั้ง อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ทีมเหล่านี้ได้คอยผลิตผู้เล่นคุณภาพเข้าสู่สโมสรดังทั่วยุโรป และขณะเดียวกัน ผู้เล่นชาวดัตช์หลายต่อหลายคนก็ได้ย้ายออกจากบ้านเกิดไปค้าแข้งกับทีมระดับท็อปทั่วโลกด้วยค่าที่แพงตัวมหาศาล และพวกเขาเหล่านี้ก็ได้รับการบันทึกทางสถิติว่า เป็น นักเตะฮอลแลนด์ ที่มีค่าตัวแพงที่สุดตลอดกาลในประเทศตัวเอง
อันดับที่ 10 โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์ (24 ล้านปอนด์)
หลังจากที่ย้ายจาก เฟเยนูร์ด มาเล่นกับ อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 2.75 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2004 ฟาน เพอร์ซีย์ ก็ได้เข้าสู่การเป็นสมาชิกทีมชุดใหญ่ของ “อาร์เซน่อล” ทันที และได้ทำการพาทีมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัย ก่อนที่จะย้ายไปเล่นให้กับทาง ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2012 ด้วยค่าตัวที่ 24 ล้านปอนด์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เขาได้คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย จากนั้น ก็ได้ย้ายไปเล่นกับ เฟเนร์บาห์เชเป็นเวลา 3 ปี และได้กลับไปแขวนสตั๊ดที่บ้านเกิดกับ เฟเยนูร์ด ในปี 2019 ที่ผ่านมา
อันดับที่ 9 เมมฟิส เดอปาย (25 ล้านปอนด์)
อดีตดาวรุ่งที่มากพรสวรรค์ของวงการ นักเตะฮอลแลนด์ อย่าง เดอปาย ได้ทำการย้ายจากทีม พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ไปเล่นกับทาง ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2015 ด้วยค่าตัวที่ 25 ล้านปอนด์ในยุคที่ หลุยส์ ฟาน กัล เป็นกุนซือที่คุมทีม แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายเพราะว่าตัวไม่ประสบความสำเร็จตลอด 2 ฤดูกาลกับทาง “ปีศาจแดง” หลังจากนั้น เดอปาย ได้ถูกขายให้กับทีม โอลิมปิก ลียง ในเดือนมกราคมปี 2017 ด้วยค่าตัว 21.6 ล้านปอนด์ และการย้ายทีมครั้งนี้ถือว่าทำให้เขาได้กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง โดยตัวรุกสัญชาติดัตช์รายนี้ ได้มีฟอร์มที่สุดยอดกับทีมด้วยการเก็บไป 57 ประตู
อันดับที่ 8 อาร์เยน ร็อบเบน (31 ล้านปอนด์)
ตัวของ ร็อบเบน นั้นได้ทำการแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับสโมสร เชลซี ในยุคของ โจเซ่ มูรินโญ่ กุนซือสัญชาติโปรตุเกสคุมทีม เขาได้พาทีม “เชลซี” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย เอฟเอ คัพ 1 สมัย และลีก คัพ อีก 2 สมัย ก่อนที่จะถูกขายให้กับทางราชันชุดชาว เรอัล มาดริด ในปี 2007 ด้วยค่าตัว 31 ล้านปอนด์ หลังจากนั้นปีกทีมชาติฮอลแลนด์รายนี้ มาอยู่กับ มาดริด ได้เพียง 2 ปีเท่านั้น จากนั้น เขาก็ได้ย้ายไปยัง บาเยิร์น มิวนิค พร้อมกับพา “เสือใต้” ประสบความสำเร็จอย่างนับไม่ถ้วน และกลายเป็นหนึ่งในตำนานของสโมสรมาจนถึง ณ เวลานี้
อันดับที่ 7 แยสเปอร์ ซิลเลสเซน (31 ล้านปอนด์)
หลังจากที่เขาใช้เวลากว่า 6 ปี ในการสร้างชื่อเสียงกับทีม อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม จากนั้น นักเตะฮอลแลนด์ รายนี้ได้ตัดสินใจย้ายไปเล่นกับ บาร์เซโลน่า ในปี 2016 ด้วยค่าตัวราว 13 ล้านปอนด์ เพื่อไปเป็นมือ 2 ของ มาร์ค-อังเดร แทร์ สเตเก้น นายทวารทีมชาติเยอรมัน แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ซิลเลสเซน ไม่สามารถทนกับบทบาทตัวสำรองตลอด 3 ซีซั่นในทีม บาร์ซ่า ได้ เขาจำเป็นต้องย้ายไปเล่นซบ บาเลนเซีย ด้วยค่าตัวถึง 31 ล้านปอนด์ ในปี 2019 และเจ้าตังยังคงยึดตำแหน่งโกล์มือ 1 ของ มาถึงตอนนี้
อันดับที่ 6 มาร์ค โอเวอร์มาร์ส (36 ล้านปอนด์)
โอเวอร์มาร์ส ได้โด่งดังแจ้งเกิดขึ้นมากับสโมสร อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ด้วยสไตล์การเล่นที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ใช้สปีดต้นที่จัดจ้านฉีกแนวรับคู่แข่ง พร้อมกับเข้าเขตโทษไปทำประตูได้อยู่หลายครั้ง ซึ่งจุดเด่นดังที่กล่าวมานี้ทำให้ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือของ อาร์เซน่อล ในขณะนั้น คว้าตัว นักเตะฮอลแลนด์ ไปเสริมเกมรุกด้วยค่าตัวราว 7 ล้านปอนด์ หลังจากที่ได้ย้ายมาเล่นกับ อาร์เซน่อล โอเวอร์มาร์ส ก็ได้โชว์ฟอร์มเทพด้วยการพา “ปืนใหญ่” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย และเอฟเอ คัพ 1 สมัย จากนั้น บาร์เซโลน่า ทุ่มเงิน 36 ล้านปอนด์ ดึงตัวเขาไปยังถิ่นคัมป์ นู ในปี 2000
อันดับที่ 5 ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค (40 ล้านปอนด์)
ฟาน เดอ เบค นั้นถือว่าเป็นเด็กปั้นลูกหม้อขนานแท้ของ อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ซึ่งตัวของเขานั้นได้แจ้งเกิดขึ้นมาเมื่อปี 2015 และเขามีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่น 2018-2019 มาแล้ว โดย นักเตะฮอลแลนด์ รายนี้ได้ ซัดให้ อาแจ็กซ์ ไปทั้งสิ้น 41 ประตู จากการลงเล่นรวมทุกรายการ 175 เกม จากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทัพของกุนซือ โอเล่ กุนาร์ โซลชา ได้ทุ่มเงินกว่า 40 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัว ฟาน เดอ เบค เข้ามาร่วมทีม
อันดับที่ 4 นาธาน อาเก้ (41 ล้านปอนด์)
หลังจากที่มีปัญหากับผู้เล่นแนวรับบาดเจ็บมาหลายครั้ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การนำทัพของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ตัดสินใจทุ่มเงิน 41 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัว อาเก้ มาจาก บอร์นมัธ เพื่อเสริมเกมรับให้กับทาง “เรือใบสีฟ้า” ทันที ในช่วงที่ผ่านมานั้น อาเก้ ถือว่าพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องจนก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีม และทีมชาติฮอลแลนด์
อันดับที่ 3 มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ (67.5 ล้านปอนด์)
ถือว่าเป็นสุดยอดของแดนหลังดาวรุ่งแห่งวงการลูกหนังยุคปัจจุบัน เดอ ลิกต์ ย้ายจาก อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม ไปร่วมทีม ยูเวนตุส เมื่อปี 2019 ด้วยค่าตัว 67.5 ล้านปอนด์ ถึงแม้จะยังไม่ได้ยึดตำแหน่งตัวจริงในทีม ยูเวนตุส ได้ในทันที แต่ปราการหลังวัย 21 ปี รายนี้ก็ได้ทำการเรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างจากกองหลังระดับตำนานของทีมอย่าง จอร์โจ คิเอลลินี่ และ เลโอนาร์โด โบนุชชี่ ซึ่งสิ่งนั้นจึงทำให้ เดอ ลิกต์ กลายเป็นสุดยอดเซ็นเตอร์ฮาล์ฟระดับโลก
อันดับที่ 2 แฟรงค์กี้ เดอ ยอง (70 ล้านปอนด์)
ในปัจจุบันนั้น เดอ ยอง ถือว่าเป็น นักเตะฮอลแลนด์ หัวใจหลักสำคัญในแดนกลางของทั้งทีมชาติฮอลแลนด์ และ บาร์เซโลน่า โดยดาวเตะวัย 23 ปี รายนี้ได้เป็นทั้งตัวคุมจังหวะเกม ตัวสร้างสรรค์เกม แถมยังมีทีเด็ดจากการจ่ายบอลได้แบบคิลเลอร์พาสอีกด้วย โดยกองกลางชาวดัตช์รายนี้ได้ย้ายมาจากทีม อาแจกซ์ อัมสเตอร์ดัม มาเล่นในถิ่นมคัมป์ นู เมื่อปี 2019 ด้วยค่าตัว 70 ล้านปอนด์
อันดับที่ 1 เวอร์จิล ฟาน ไดจค์ (75 ล้านปอนด์)
เม็ดเงินจำนวน 75 ล้านปอนด์นี้ ที่ทาง ลิเวอร์พูล จ่ายให้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน เพื่อดึง นักเตะฮอลแลนด์ เมื่อมกราคมปี 2018 เพื่อเป็นค่าตัวของ ฟาน ไดจค์ นั้น ตอนนี้ “หงส์แดง” ได้รับการตอบแทนคุ้มค้าทุกบาททุกสตางค์ไปเรียบร้อยแล้ว โดยหลังจากที่ได้ย้ายไปเล่นในถิ่น แอนฟิลด์ ตัวของ ฟาน ไดจค์ ก็สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อแนวรับ ลิเวอร์พูล ได้อย่างมาก เขาทำให้คนรอบข้างเล่นได้ดีขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ โดยปราการหลังวัย 29 ปีรายนี้ได้ ประสบความสำเร็จอย่างสุดยอดด้วยการพา “หงส์แดง” คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ยูฟ่า ซุเปอร์ คัพ และแชมป์สโมสรโลก
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ทีเด็ดฟุตบอลประจำวันที่ 31 พฤษภาคม 2566
