กุนซือเนื้อหอม รังนิกเตรียมคุมทีมชาติออสเตรียควบตำแหน่งที่ปรึกษาแมนยู

Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest

ริงนิครับงานคุมทีมชาติออสเตรีย : กุนซือเนื้อหอม รังนิกเตรียมคุมทีมชาติออสเตรียควบตำแหน่งที่ปรึกษาแมนยู

ริงนิครับงานคุมทีมชาติออสเตรีย

ในช่วงปลายปี 2021 ที่ผ่านมาที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดตัดสินใจปลดกุนซือคนเก่าอย่างโอเล่ กุนนาร์ โซลชาออกจากตำแหน่ง สังเวยผลงานที่สุดแสนจะย่ำแย่ของเขา แมนยูก็ตกอยู่ในสภาวะวิกฤตเกี่ยวกับกุนซือในทันที ในช่วงเวลานั้นพวกเขาตัดสินใจยกอดีตนักเตะชื่อดังอย่างไมเคิล คาร์ริคขึ้นเป็นกุนซือรักษาอาการจนกว่าจะหากุนซือคนใหม่ได้สำเร็จ ซึ่งนักเตะหลายคนภายในทีมรู้สึกไม่ชอบใจสักเท่าไหร่เพราะมองว่าคาร์ริคยังไม่พร้อมในการเป็นกุนซือแบบเต็มตัวแม้ว่าเขาจะสามารถพาทีมพ้นจากความพ่ายแพ้ได้ถึง 3 ครั้งรวดก็ตาม

จนสุดท้ายแมนยูก็มาเปิดเผยรายชื่อกุนซือคนใหม่อย่างราล์ฟ รังนิกที่จะมาเป็นกุนซือขัดตาทัพไปจนกว่าจะจบฤดูกาลพร้อมเซ็นสัญญาเป็นที่ปรึกษาหลังจบบทบาทกุนซือต่ออีก 2 ปี ในช่วงเวลานั้นกุนซือสโมสรในพรีเมียร์ลีกหลายคนต่างรู้สึกเป็นกังวลเพราะเขาผู้นี้เป็นปรมาจารย์ด้านฟุตบอลที่หาคนเทียบได้ยาก แต่กลับกลายเป็นว่าเจ้าตัวนั้นเอาชื่อเสียงมาทิ้งในโอลด์ แทรฟฟอร์ดเสียอย่างนั้นเพราะผลงานของเขาไม่ได้ออกมาดีอย่างที่ควรจะเป็นและไม่สามารถกู้วิกฤตของแมนยูได้แต่อย่างใด แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ยังคงเนื้อหอมไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะล่าสุดทางสมาคมฟุตบอลออสเตรียได้มีการออกมาประกาศแต่งตั้งให้ราล์ฟ รังนิกขึ้นเป็นผู้จัดการทีมชาติออสเตรียอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา โดยเขาจะได้เริ่มงานในฐานะของกุนซือทีมชาติหลังพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาล 2021 จบลง

ริงนิครับงานคุมทีมชาติออสเตรีย

ราล์ฟ รังนิกเป็นกุนซือวัย 63 ปีที่มีผลงานโดดเด่นมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่สมัยที่เจ้าตัวยังเป็นหนุ่ม ล่าสุดเขาได้จรดปากกาลงน้ำหมึกเซ็นสัญญาคุมทีมชาติออสเตรเลียเป็นที่เรียบร้อยแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปีจนถึงปี 2024 โดยจะต้องรับงานต่อจากกุนซือคนเก่าอย่างฟรานโก้ โฟด้าที่ลงจากตำแหน่งเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังผลงานออกมาไม่ดีเท่าที่ควรเพราะไม่สามารถพาทีมเข้าสู่การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายได้สำเร็จ

แต่อย่างที่เราทราบกันดีว่ารังนิกไม่ได้เป็นคนที่ว่างแต่อย่างใด เพราะหลังจากที่บทบาทการเป็นกุนซือให้กับแมนยูจบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเขาจะต้องทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับแมนยูต่ออีกถึง 2 ปีเลยทีเดียว แม้ว่าในสัญญาจะระบุเวลาทำงานเพียงแค่ไม่กี่วันต่อเดือนแต่มันก็คงจะส่งผลกระทบต่อการคุมทีมชาติออสเตรียไม่น้อยเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเจ้าตัวได้ออกมาเปิดเผยว่าเขาได้รับงานกุนซือทีมชาติออสเตรียหลังจบฤดูกาลนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะทำงานควบคู่ไปกับงานที่ปรึกษาแมนยูไปด้วย ตอนนี้เขากำลังมองว่าจะช่วยให้แมนยูกลับมาเรืองอำนาจอีกครั้งได้อย่างไร