ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์ได้สำเร็จหลังเฉือนเอาชนะแมนซิตี้ด้วยคะแนน 3 ประตูต่อ 1

ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์

คืนวันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ สโมสรเบิร์นลี่ย์ ทีมจากบ๊วยตารางของคะแนนพรีเมียร์ลีก เปิดบ้านเสมอกับ ปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ไปได้ 1-1 ทำให้ตอนนี้ แมนยูมี 39 แต้ม ตารางการแข่งขัน 23 นัด อยู่อันดับที่ 5 ของตารางคะแนน ส่วนเบิร์นลี่ย์ มี 14 แต้ม จากการแข่งไป 20 นัด อยู่อันดับสุดท้ายของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก

Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest

ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์ ได้สำเร็จหลังเฉือนเอาชนะแมนซิตี้ด้วยคะแนน 3 ประตูต่อ 1 

ในช่วงปรีซีซั่นส่วนใหญ่และการแข่งขันนั้นมักจะเป็นการอุ่นเครื่องหรือเป็นการกระชับมิตรเพื่อให้นักเตะได้ขยับแข้งขยับขาหลังจากที่ไปพักผ่อนตามอัธยาศัยหลังจบฤดูกาลที่ผ่านมา มันเป็นการซ้อมเสมือนจริงให้กุนซือได้ทดลองรูปแบบการเล่นหรือกลยุทธ์ที่หลากหลายมากขึ้นกว่าเดิม

ดังนั้นการแข่งขันส่วนใหญ่แล้วจึงมักจะไม่ค่อยเอาจริงเอาจังสักเท่าไหร่ยกเว้นว่าต้องการจะทดสอบระบบทีมซึ่งก็ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของกุนซือแต่ละคนว่าวางแผนเอาไว้อย่างไร แต่มีอยู่การแข่งขันหนึ่งที่จัดขึ้นในช่วงปรีซีซั่นและเป็นการแข่งขันที่มีความจริงจังไม่น้อยเลยทีเดียว นั่นก็คือการแข่งขันคอมมูนิตี้ ชิลด์หรือชื่อเดิมอย่างแชริตี้ ชิลด์นั่นเอง เป็นการแข่งขันฟุตบอลในอังกฤษประจำปีโดยผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันนั้นจะเป็นผู้ชนะในการแข่งขันพรีเมียร์ลีกและผู้ที่ชนะในการแข่งขันเอฟเอคัพ

แต่หากแชมป์พรีเมียร์ลีกสามารถคว้าชัยชนะเอฟเอคัพได้ด้วยก็จะทำการแข่งขันกับทีมรองชนะเลิศพรีเมียร์ลีกแทน เป็นการจัดการแข่งขันการกุศลที่รายได้จากถูกนำเอาไปมอบให้กับองค์กรการกุศลที่ร่วมกับสมาคม แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับการแข่งขันพรีเมียร์ลีกหรือการแข่งขันถ้วยยุโรป แต่ก็เป็นการแข่งขันที่มีความเอาจริงเอาจังไม่น้อยเลยทีเดียว

เพราะเป็นการพบกันแบบแชมป์ชนแชมป์ และในฤดูกาลนี้ของสโมสรที่ต้องมาพบกันในการแข่งขันดังกล่าวก็คือแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างแมนซิตี้และแชมป์เอฟเอคัพอย่างลิเวอร์พูลนั่นเอง ฤดูกาลที่ผ่านมาทั้งสองสโมสรเรียกได้ว่าเฉือนกันไม่ลง แต่การแข่งขันในครั้งนี้จบลงไปโดยที่ไม่ต้องยิงลูกจุดโทษหาผู้ชนะด้วยซ้ำเพราะลิเวอร์พูลสามารถคว้าชัยชนะได้สำเร็จไปด้วยคะแนนกว่า 3 ประตูต่อ 1

ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์

เป็นการประเดิมแชมป์แรกของฤดูกาลหน้าด้วยการคว้าแชมป์คอมมูนิตี้ ชิลด์สมัยที่ 10 ได้สำเร็จด้วยประตูจากเทรนต์ อเล็กซานเดอร์- อาร์โนลด์กองกลางจอมแอสซิสต์ที่ถูกย้ายไปเล่นกองหลังแทน

กองหน้าที่ยังคงฝากความหวังเอาไว้ได้เสมออย่างโมฮาเหม็ด ซาลาห์ และนักเตะใหม่ถอดด้ามราคาสูงสุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรอย่างดาร์วิน นูเนซที่ได้รับความไว้วางใจในการยิงลูกจุดโทษ ช่วงครึ่งแรกลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายบุกก่อนแต่ก็ยังไม่สามารถทำประตูได้สำเร็จจน

กระทั่งเข้าสู่นาทีที่ 21 ลิเวอร์พูลก็ได้จังหวะทำประตูจากการขึ้นนำของซาลาห์ที่ส่งบอลให้กับเทรนต์ทำประตูผ่านมือเอแดร์ซอนได้อย่างงดงาม ครึ่งแรกจบไปด้วยการขึ้นนำของลิเวอร์พูล เข้าสู่ครึ่งหลังในนาทีที่ 70 แมนซิตี้สามารถทำคะแนนตีเสมอได้สำเร็จโดฮูเลียน อัลวาเรซ แต่แล้ว 9 นาทีต่อมาลิเวอร์พูลก็สามารถเรียกฟาวล์ได้สำเร็จในจังหวะที่โมฮาเหม็ด ซาลาห์เปิดบอลเข้ากรอบเขตโทษให้กับดาร์วินได้โหม่งแต่ดันไปติดมือรูเบน ดิอาสก่อนที่ var จะชี้เป็นลูกจุดโทษ

ในนาทีที่ 83 ซาลาห์จึงเป็นผู้ยิงลูกจุดโทษและพาลิเวอร์พูลขึ้นนำไปด้วยคะแนนกว่า 2 ประตูต่อ 1 และในนาทีที่ 90 + 4 ลิเวอร์พูลก็สามารถทำประตูทิ้งห่างโดยแอนดรูว์ โรเบิร์ตสันโหม่งบอลส่งให้ดาร์วินก่อนจะโขกผ่านมือเอแดร์ซอนไปอย่างงดงาม