เลวานกดแฮททริค พาทัพเสือใต้เข้าสู่รอบต่อไป

       เปิดฉากมาแค่นาทีเดียว “เสือใต้” ได้ทักทายก่อนหลัง ซาเน่ แปะให้ มุลเลอร์ แทงทะลุให้ เลวานดอฟสกี้ หลุดเข้าไปซัดเสาแรกแต่ยังไม่ผ่านมือนายด่าน ซัลซ์บวร์ก ที่ปัดออกไปได้

       ถัดมานาทีที่ 2 ทีมเยือนตอบโต้มาแบบได้เสียวหลัง คาริม อเดเยมี่ ปาดมากลางประตูให้ นิโกลัส กาปัลโด้ ซัดด้วยขวาแต่ยังไปติดบล็อค คิงส์ลี่ย์ โกมัน ที่ตามมาช่วยบล็อคออกหลังหวุดหวิด

       นาที 11 “เสือใต้” มาได้ลูกที่จุดโทษหลัง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ พลิกบอลกำลังจะยิงแต่โดน มักซิมิเลียน โวเบอร์ รวบฟาวล์ล้มลงในเขตโทษก่อนที่ ดาวยิงชาวโปแลนด์จะลุกมาสังหารเข้าไปไม่พลาดให้ บาเยิร์น มิวนิค ขึ้นนำ ซัลซ์บวร์ก 1-0 สกอร์รวมตอนนี้นำ 2-1

       นาที 21 มักซิมิเลียน โวเบอร์ คนเดิมไปฟาวล์ใส่ เลวานดอฟสกี้ อีกครั้ง ซึ่งตอนแรกผู้ตัดสินเป่าให้ฟรีคิกบนเส้น 18 หลาก่อน ทว่าวีเออาร์ส่งสัญญาณว่าจุดเกิดเหตุอยู่ในกรอบ ทำให้เชิ้ตดำกลับคำตัดสินเป่าเป็นให้ลูกจุดโทษก่อนจะเป็น เลวานดอฟสกี้ สังหารจุดโทษเข้าไปไม่เหลือให้ “เสือใต้” นำห่างซัลซ์บวร์ก 2-0 เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ และให้ บาเยิร์น นำห่างด้วยสกอร์รวม 3-1

      เท่านั้นไม่พอ นาที 23 แฟนเสือใต้ใน อัลลิอันซ์ อารีน่า เฮกันลั่นสนามอีกเมื่อ บาเยิร์น มิวนิค มาได้เม็ดที่สาม หลัง มุลเลอร์ แทงบอลทะลุช่อง ฟิลิปป์ โคห์น นายด่านซัลซ์บวร์ก ออกมาสกัดแต่บอลไปชนคา เลวานดอฟสกี้ ก่อนพุ่งไปชนเสาแล้วมาเข้าทางหัวหอกชาวโปลตามซ้ำเข้าไปง่ายๆ ให้ บาเยิร์น นำโด่ง 3-0 (สกอร์รวม 4-1) และเป็นแฮตทริกของดาวเตะวัย 33 ปีในเกมนี้ พร้อมขึ้นนำดาวซัลโว ยูฟ่า ชปล. ฤดูกาลนี้ที่ 12 ประตู

     แนวรุกของเจ้าบ้านยิ่งเล่นยิ่งคึก นาที 31 มาได้เม็ดที่สี่ นำโด่งไปไกลเป็น 4-0 จากจังหวะที่ คิงส์ลี่ย์ โกมัน ตัดบอลได้ก่อนแทงออกขวาให้ แซร์ช นาบรี หลุดเข้าไปซัดผ่านมือ ฟิลิปป์ โคห์น เข้าไปสกอร์รวมนำห่าง 5-1 จบครึ่งแรก บาเยิร์น มิวนิค นำห่าง ซัลซ์บวร์ก 4-0