ปิดฉากเกม FIFA หลัง EA Sport ขัดแย้งกับ FIFA

ปิดฉากเกม FIFA

ปิดฉากเกม FIFA
Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest

แม้ว่าเกม FIFA จะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการแข่งขันฟุตบอลโดยตรง แต่ก็นับว่าเป็นหนึ่งในเกมฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดจากค่าย EA Sport และยังเป็นหนึ่งในช่องทางการโปรโมทการแข่งขันลีกชื่อดังในยุโรปไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีก ลา ลีกา ลีกเอิง บุนเดสลีกา หรือแม้แต่กัลโช่ เซ เรียอาด้วย

     เนื่องจากมีการมอบลิขสิทธิ์นักเตะให้สามารถนำเอาไปลงในเกมได้ซึ่งช่วยเพิ่มความสมจริงในการเล่นเกมแข่งฟุตบอลมากขึ้นกว่าเดิม แต่อย่างไรก็ตามล่าสุดเกมตระกูลนี้ก็ได้เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้วแบบที่แฟนเกมและแฟนบอลไม่ทันได้ตั้งตัว เนื่องจากทางค่ายเกมตัดสินใจที่จะไม่ต่อสัญญากับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติต่อไป และต้องการที่จะเดินหน้าสร้างเกมใหม่ภายในชื่อ EA Sports FC แทนโดยที่ไม่พึ่งพาทางองค์กรฟุตบอลชื่อดังอีกต่อไปแล้ว ต้องย้อนกลับไปในอดีตว่าความสัมพันธ์ของทางฟีฟ่าและค่ายเกมตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมานั้นเกิดขึ้นด้วยเหตุผลเดียวนั่นก็คือการทำธุรกิจ ทำให้เกมฟีฟ่ากลายเป็นเกมที่มีการซื้อลิขสิทธิ์มหาศาลจากองค์กรกีฬายักษ์ใหญ่ที่สุดในโลก

     พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างงดงามและมีการออกเกณฑ์ออกมาหลายต่อหลายปี แต่อย่างไรก็ตามการดำเนินธุรกิจไม่มีอะไรที่จีรังยั่งยืนแต่อย่างใด สัญญาของพวกเขากำลังจะหมดลงในปี 2023 นี้ และทั้งสองฝ่ายต่างเห็นตรงกันว่าพวกเขาสามารถหาประโยชน์จากเกมดังกล่าวได้มากขึ้นกว่าเดิม ทาง FIFA มองว่าพวกเขาควรได้รับค่าลิขสิทธิ์มากกว่านี้เนื่องจากการขยายตัวในตลาดดิจิตอล ในขณะที่ค่ายเกมเองก็มองว่าพวกเขาก็สามารถทำเกมได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาองค์กรด้านการกีฬาที่ยิ่งใหญ่อีกต่อไปแต่อย่างใด

ปิดฉากเกม FIFA

     สุดท้ายพวกเขาจึงต้องแยกทางกันเนื่องจากต่างฝ่ายต่างมองว่าตัวเองสามารถหาผลประโยชน์เข้าหาตนเองได้มากกว่าทั้งคู่ ทาง FIFA มองว่าควรได้ค่าตอบแทนที่สูงกว่านี้เนื่องจากการทำสัญญากับค่ายเกมดังกล่าวมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 30 ปีทำการการขยายตัวของตลาดดิจิตอลเป็นการปิดโอกาสไม่ให้ตนเองสามารถดำเนินธุรกิจกับลูกค้ารายอื่นได้ จึงมีการขอเพิ่มค่าลิขสิทธิ์ฉบับใหม่เป็นจำนวนกว่า 300 ล้านดอลลาร์ต่อปี เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 2 เท่า ในขณะเดียวกันเองค่ายเกมก็มั่นใจอย่างเต็มที่ว่าเกมของตนเองนั้นได้รับกำไรมหาศาลจากความสำเร็จที่ผ่านมา และพวกเขาก็ต้องการความอิสระในการผลักดันเกมในทิศทางใหม่มากขึ้นกว่าเดิม

     นอกจากนี้พวกเขายังมองว่าการที่ผู้เล่นหันมาเล่นเกมของพวกเขามากขึ้นไม่ใช่เพราะว่าแบรนด์ FIFA รับรองแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะระบบการเล่นที่ออกแบบมาได้อย่างยอดเยี่ยมต่างหาก แต่อย่างไรก็ตามหลังการเจรจายาวนานนับ 6 เดือนไม่เป็นผลสุดท้ายแล้วต่างฝ่ายจึงต้องแยกย้ายเดินหน้ากันต่อไป นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในวงการเกมฟุตบอลรวมไปถึงกับทาง FIFA ด้วย เนื่องจากพวกเขาจะสูญเสียเงินที่ควรได้จากค่าลิขสิทธิ์จำนวนมหาศาลโดยที่ยังไม่ทราบว่าจะมีใครพร้อมทุ่มเงินจำนวนที่พวกเขาต้องการในการซื้อลิขสิทธิ์นักเตะอีกหรือไม่