อาร์เซนอลอาจทำพลาดหากใช้แนวทางในยุคเวนเกอร์

อาร์เซนอลอาจทำพลาดหากใช้แนวทางในยุคเวนเกอร์
Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest

     ครั้งหนึ่งอาร์เซนอลเคยเป็นสโมสรที่รุ่งเรืองกว่าใคร พวกเขาสามารถลงแข่งขันพรีเมียร์ลีกทั้งหมดโดยที่ไม่ให้แพ้ให้กับใครเลยแม้แต่ครั้งเดียว และมันก็ส่งผลให้พวกเขาสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนั้นได้สำเร็จ อาร์เซนอลในยุคนั้นอยู่ภายใต้การคุมทีมของกุนซือระดับตำนานอย่างอาร์แซน เวนเกอร์

ชายผู้ครั้งหนึ่งเป็นที่รักของแฟนบอล แต่ครั้งหนึ่งเขาก็เคยก่อความผิดพลาดจนทำให้แฟนบอลขับไล่เขาออกจากตำแหน่งเช่นเดียวกัน เราจึงไม่สามารถพูดได้ว่าเขานั้นเป็นกุนซือที่ไร้มลทิน แต่ก็ต้องยอมรับว่าในยุคของเขานั้นอาร์เซนอลยอดเยี่ยมไม่ต่างจากตอนนี้อย่างแท้จริงเช่นเดียวกัน แม้ว่าในตอนนี้อาร์เซนอลภายใต้การคุมทีมของมิเกล อาร์เตต้าจะสามารถทำผลงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจ แต่อดีตผู้อำนวยการฟุตบอลอย่าง ราอูล ซานเยฮี กลับออกมาแสดงความกังวล เนื่องจากอาร์เซนอลต้องการที่จะแต่งตั้งให้

มิเกล อาร์เตต้า ผู้เป็นผู้จัดการทีมสามารถกำหนดแนวทางทุกอย่างในการทำทีมได้ด้วยตัวคนเดียว เป็นรูปแบบการทำครีมที่ไม่ได้แตกต่างอะไรจากยุคไร้พ่ายของเวนเกอร์เลยแม้แต่น้อย อดีตผู้อำนวยการฟุตบอลผู้นี้เคยเข้ามาทำงานกับสโมสรอาร์เซนอลในปี 2018 หลังจากที่เจ้าตัวประสบความสำเร็จกับบาร์เซโลน่ามาอย่างยาวนานถึง 14 ปี ในตอนนั้นเขาเป็นผู้บุกเบิกแนวคิดการบริหารทีมใหม่ โดยการแบ่งอำนาจการบริหารทีมให้กับคนสำคัญทั้งหมด 4 คนเท่าเทียมกัน ประกอบไปด้วยเฮดโค้ช ผู้อำนวยการด้านเทคนิค หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการด้านฟุตบอล และผู้จัดการจาก ACADEMY 

อาร์เซนอลอาจทำพลาดหากใช้แนวทางในยุคเวนเกอร์

น่าเสียดายที่แนวคิดดังกล่าวมันกลับไม่ประสบความสำเร็จแต่อย่างใด หลังจากที่ใช้ได้เพียงแค่ไม่กี่เดือนแผนการดังกล่าวก็ล่มสลายลงไปในพริบตา นับตั้งแต่นั้นสโมสรอาร์เซนอลใช้แนวทางการบริหารโดยให้อาร์เตต้าสามารถกำหนดหลายอย่างมากกว่าคนอื่นเหมือนกับในตอนนี้ ราอูล ซานเยฮี ได้กล่าวว่าแนวคิดของตนเองนั้นมีคนสำคัญถึง 4 คนซึ่งทั้ง 4 คนนั้นจำเป็นที่จะต้องมีการประสานงานร่วมกันเป็นอย่างดี ในตอนแรกอาร์เซนอลต้องการที่จะก้าวข้ามผ่านยุคของอาร์แซน เวนเกอร์ให้สำเร็จซึ่งเป็นยุคที่กุนซือทำทุกอย่างตัวคนเดียว

ความจริงแล้ว เอเมรี่ เป็นคนที่เก่ง แต่สำหรับอาร์เซนอลนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่พวกเขาควรจะได้สิทธิ์ลงแข่งขันแชมป์เปียนลีก แต่การพ่ายแพ้ให้กับเชลซีในการแข่งขันยูโรป้าก็ทำให้เรามีสถานการณ์ที่แย่ลง เป็นปีที่สองของเขาที่ยุ่งยากเหมือนกับตกอยู่ในนั้น เราเคยใช้แนวคิดที่มีคนเดียวกลุ่มอำนาจใหญ่ภายในทีมซึ่งเป็นแนวทางที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้น แต่เราจะต้องพัฒนาไปข้างหน้า ตนเองจึงไม่เห็นด้วยกับการที่สโมสรทั้งหลายเรียกโค้ชว่าผู้จัดการทีม การเป็นโค้ชแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว เพราะทุกวันนี้ปริมาณงานนั้นมีเยอะจนเกินไป ตนเองต้องการให้ค้นได้มีสมาธิกับทีมชุดใหญ่อย่างจริงจัง