จะเป็นอย่างไรหากทีมชาติไทยไร้ซึ่ง เจ ชนาธิป
เจ ชนาธิป
ค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าทีมชาติไทยจะมีโปรแกรมลงแข่งขันในช่วงปลายปีอีก 2 รายการประกอบไปด้วยการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพซึ่งเป็นการจัดการแข่งขันขึ้นในช่วงฟีฟ่าเดย์โดยเชิญทีมชาติอื่นเข้ามาร่วมแข่งขันแบบกระชับมิตร และการแข่งขันฟุตบอลอาเซียน คัพ
โดยจะถูกจัดขึ้นในช่วงสิ้นปีซึ่งเป็นการแข่งขันที่มีความจริงจังและ ทีมชาติไทย เองก็มีความคาดหวังว่าจะสามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จอีก 1 รายการ และการแข่งขันทั้ง 2 รายการนี้ก็ค่อนข้างแน่นอนเช่นเดียวกันว่าเราอาจจะไม่ได้เห็นนักเตะคนสำคัญอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ เข้าร่วมการแข่งขันทั้งที่เขานั้นเป็นถึงกัปตันทีม เนื่องจากยังไม่ได้มีการออกมายืนยันแต่อย่างใดจากการสัมภาษณ์ล่าสุดของเจ้าตัวเมื่อวานนี้ ซึ่งค่อนข้างชัดเจนว่าเขาต้องการที่จะพักผ่อนและต้องการให้ทีมชาติไทยมอบโอกาสให้นักเตะคนอื่นได้ก้าวขึ้นมาทำหน้าที่นี้แทนบ้าง
เจ้าตัวกล่าวว่าตนเองอยู่กับโลกโซเชียลมาตลอดและรับรู้ถึงการเชียร์ของแฟนบอลเป็นจำนวนมาก เขารู้สึกทั้งซาบซึ้งและดีใจ ขนาดเวลาแข่งตรงกับเวลาการทำงานของแฟนบอลแต่พวกเขาก็ยังดูถ่ายทอดสด ทนเองรู้สึกภูมิใจที่ได้เล่นฟุตบอลให้ทุกคนได้รับชมทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ การแข่งขัน คิงส์ คัพ ยังไม่รู้ว่าจะได้กลับไปหรือไม่ แม้แต่การแข่งขันชิงแชมป์อาเซียนเองก็ยังไม่สามารถรับปากได้ว่าใครจะได้ลงแข่งขัน ตนเองอาจมีการตัดสินใจกับตนเองว่าจะไม่เล่นเนื่องจากต้องการพักร่างกายบ้าง เนื่องจากตัวเองไม่เคยได้พักเลยเป็นเดือน พักมากที่สุดก็แค่หลักอาทิตย์เท่านั้น ร่างกายจะแย่ลงเรื่อยๆ ดังนั้นแฟนๆ ก็อาจจะไม่ได้เห็นตนเองแข่งขันในช่วงสิ้นปี
นอกจากนี้เจ้าตัวยังกล่าวเสริมอีกว่าความจริงแล้วทุกรายการแข่งขันสำคัญทั้งหมด ตนเองรู้สึกว่าควรมีการคลังให้นักเตะคนอื่นได้เข้ามามีส่วนร่วมใน ทีมชาติไทย ได้แล้ว หากเราไม่สร้างทีมชาติไทยยุคใหม่ขึ้นมาในตอนนี้สุดท้ายหมดยุคของตนเองไปก็จะไม่มีผู้เล่นคนอื่นขึ้นมาแทนที่ได้ทัน หากเรามีผู้เล่นที่สามารถช่วยการยกระดับและพัฒนาทีมขึ้นมาน่าจะดีกว่า เนื่องจากการแข่งขันทีมชาตินั้นสำคัญทุกนัด อาจเป็นเพราะว่าตนเองแข็งอยู่ในเมืองนอกด้วยและโปรแกรมการแข่งขันก็ไม่เอื้ออำนวยสักเท่าไหร่ ไม่เพียงเท่านั้นยังได้รับบาดเจ็บเยอะ
ทำให้ร่างกายมีความเหนื่อยล้า หากไปแข่งขันแล้วกลับมาบาดเจ็บหรือมีอาการบาดเจ็บสะสมก็จะส่งผลเสียต่อทั้งตนเองและทีมชาติด้วย เพียงแค่เราเปิดใจปั้นนักเตะใหม่ขึ้นมาแล้วดูว่าใครที่จะสามารถช่วยพัฒนาต่อไปได้น่าจะดีกว่า ในความเป็นจริงแล้วการแข่งขันรอบคัดเลือกเอเชียน คัพรวมไปถึงฟีฟ่าเดย์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็ไม่มี ชนาธิป อยู่ในทีมแต่อย่างใด ดังนั้นมันจึงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรขนาดนั้น ทีมชาติไทยยังพอมีนักเตะที่สามารถทดแทนได้หรืออาจใช้การเปลี่ยนระบบการเล่นเพื่อเข้ามา support การแข่งขันก็น่าจะเหมาะกับทีมชาติไทยชุดปัจจุบันที่มีกองกลางฝีมือดีหลายคน
READ MORE :: เว็บข่าวบอล
RELATED :: ข่าวฟุตบอลรอบโลก