TOP10 นักเตะที่มีค่าตัวสูงที่สุดของ ลิเวอร์พูล
TOP10 นักเตะที่มีค่าตัวสูงที่สุดของ ลิเวอร์พูล
ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาของ สโมสร ลิเวอร์พูล ได้ลงทุนคว้านักเตะใหม่มาเสริมทัพในทุกตลาดนักเตะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคของ 2 กุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส และ เจอร์เก้น คลอปป์ นั้น “ลิเวอร์พูล” ได้ทำลายสถิตินักเตะเพดานค่าตัวแพงของนักเตะอยู่หลายครั้งทีเดียว ในตอนนี้นั้นมีผู้เล่นมากมากมายที่ถูกโยกย้ายมายังถิ่นแอนฟิลด์ บางคนก็ประสบความสำเร็จ และยังคงเป็นขุมกำลังหลักของทีมมาจนถึงตอนนี้ ในขณะที่บางคนก็ผลงานล้มเหลวจนต้องถูกปล่อยตัวออกจากทีมไป ในวันนี้ทางเว็บไซต์ของเราจึงได้ทำ 10 อันดับนักเตะที่มีค่าตัวสูงที่สุดของ ลิเวอร์พูล ให้ทุกท่านได้รับชมกัน
อันดับที่ 10 คริสติยอง เบนเตเก้ (ค่าตัว 32.5 ล้านปอนด์)
ตัวของ เบนเตเก้ นั้นถูกคว้าตัวเข้ามาในยุคของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ในช่วงฤดูร้อนปี 2015 แต่กองหน้าสัญชาติเบลเยียมรายนี้ ดูเหมือนมีสไตล์การเล่นที่จะไม่เข้ากับทีมอย่างมาก จนมาถึงในยุคของกุนซือ เยอร์เก้น คล็อปป์ เขาได้ขายให้กับ คริสตัล พาเลซ ในปี 2016 ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ ในระยะเวลาตลอด 1 ปี ที่ค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล เบนเตเก้ ยิงไปได้เพียง 10 ประตู จากการลงสนามรวมในทุกรายการ 42 เกม
อันดับที่ 9 ซาดิโอ มาเน่ (ค่าตัว 34 ล้านปอนด์)
สุดยอดกองหน้าทีมชาติเซเนกัล ถูก เยอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของ ลิเวอร์พูล ดึงตัวมาจากทีม เซาธ์แฮมป์ตัน ในราคา 34 ล้านปอนด์ จนถึงตอนนี้ มาเน่ เองก็ถือว่ายังเป็นคีย์แมนคนสำคัญในเกมรุกที่แฟนบอล “ลิเวอร์พูล” จะขาดไปไม่ได้ มาเน่ นั้นได้พัฒนาตัวเองจนขึ้นมาเป็นแนวรุกระดับโลกอย่างเต็มตัวเพราะว่าตัวนักเตะนั้นมีทั้งความเร็ว สปีดต้น เทคนิค การจบสกอร์ การหาพื้นที่ และ การมีทีมเวิร์ค โดยทาง ซาดิโอ มาเน่ มีสถิติ กับทาง ลิเวอร์พูล ที่น่าประทับใจเป็นอย่างมากด้วยการซัดไปถึง 85 ประตู จากการลงเล่นทั้งหมด 177 นัด
อันดับที่ 8 แอนดี้ คาร์โรลล์ (ค่าตัว 35 ล้านปอนด์)
แอนดี้ คาร์โรลล์ ถูกดึงตัวจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มายังถิ่นแอนฟิลด์ในช่วงเดือนมกราคมปี 2011 ด้วยค่าตัวที่ 35 ล้านปอนด์ ในยุคที่กุนซือ เคนนี่ ดัลกลิช คุมทัพ ลิเวอร์พูล แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ผลงานของ คาร์โรลล์ กับทาง “ลิเวอร์พูล” นั้นไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ในฤดูกาล 2012-2013 ลิเวอร์พูล นั้นตัดสินใจปล่อยตัว คาร์โรลล์ ให้กับทาง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ยืมตัวไปใช้งานก่อนจะขายแบบขาดทุนให้กับ “เวสต์แฮม ยูไนเต็ด” ใน และปัจจุบันในวัย 31 ปี เจ้าตัวก็ได้ย้ายกลับไปเล่นให้กับทาง นิวคาสเซิ่ล อีกครั้งหนึ่ง
อันดับที่ 7 โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ (ค่าตัว 35 ล้านปอนด์)
คงจะไม่มีสาวกของ ลิเวอร์พูล คนใดที่คิดว่า ซาล่าห์ จะประสบความสำเร็จกับทีมได้อย่างมากมาย หลังจากที่เขาย้ายมาจาก เอฟซี บาเซิ่ล มาเล่นในอังกฤษกับ เชลซี ในปี 2013 แต่ก็เจอกับภาวะความยากลำบากจนต้องย้ายกลับไปเล่นในอิตาลีกับ ฟิออเรนติน่า และ โรม่า ทาง เจอร์เก้น คล็อปป์เขาเป็นคนคว้าตัว ซาล่าห์ มาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ในช่วงฤดูร้อนปี 2017 หลังจากนั้น นักเตะทีมชาติอิยิปต์รายนี้ ก็กลายเป็นตัวหลักในเกมรุกของ “ลิเวอร์พูล” ทันที พร้อมกับโชฟอร์มยิงประตูไป 100 ประตู จากการลงเล่นทั้งหมด 161 เกม
อันดับที่ 6 อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (ค่าตัว 35 ล้านปอนด์)
มิดฟิลด์สัญชาติอังกฤษรายนี้ ถูกดึงตัวมายัง ลิเวอร์พูล ในช่วงฤดูร้อนปี 2017 เพื่อเพิ่มขุมกำลังให้กับแดนกลางของ “หงส์แดง” โดยนักเตะในวัย 27 ปีรายนี้ มีทั้งลูกยิงไกลที่แสนจะทรงพลัง การเข้าประทะ และความกระตือรือร้น ได้ตามแบบฉบับที่กุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ นั้นต้องการ แต่อย่างไรก็ตาม อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน เป็นนักเตะที่ได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เขาไม่สามารถลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ได้มากเท่าที่ควร
อันดับที่ 5 ดิโอโก้ โชตา (ค่าตัว 41 ล้านปอนด์)
โชต้า ถูกคว้าตัวมาจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน ด้วยค่าตัวที่มากถึง 41 ล้านปอนด์ เมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมานี้ พร้อมกับเงื่อนไขจ่ายเพิ่มอีกรวมเป็น 45 ล้านปอนด์ในอนาคตหากว่าเจ้าตัวสามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมาย ปีกสัญชาติโปรตุเกสรายนี้ ได้รับการคาดหมายว่า จะเข้ามาแบ่งเบาภาระของ ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ ได้โดยถ้าหากมองจากผลงานล่าสุดของ โชต้า ที่เริ่มปรับตัวเข้ากับทีมได้ โดยยิงไปแล้ว 2 ประตู มองดูแล้วยังไงสโมสรก็คุ้ม
อันดับที่ 4 ฟาบินโญ่ (ค่าตัว 43.7 ล้านปอนด์)
ในช่วงแรกที่ย้ายจาก โมนาโก มายัง ลิเวอร์พูล ในช่วงฤดูร้อนปี 2018 นั้น หลังจากนั้น ฟาบินโญ่ ต้องปรับตัวกับการเล่นในเกาะอังกฤษอย่างหนัก และตัวเขานั้นก็แทบไม่ได้รับโอกาสลงสนามมากเท่าไรนัก แต่หลังจากที่ปรับตัวได้ กองกลางชาวบราซิล ก็กลายเป็นขุมกำลังสำคัญในแดนกลางของ ลิเวอร์พูล ทันที ตัวของ ฟาบินโญ่ ได้ปักหลักในแดนกลางของ ลิเวอร์พูล ได้อย่างแข็งแกร่ง และเขายังเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ที่สามารถย้ายไปเล่นในตำแหน่งฟูลแบ็ค และเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แถมยังสามารถยิงไกลได้อีกด้วย
อันดับที่ 3 นาบี เกอิต้า (ค่าตัว 48 ล้านปอนด์)
เกอิต้า ถูกคาดหวังว่า จะเข้ามาสานต่อเสื้อเบอร์ 8 ของ สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด อดีตกัปตันทีม ลิเวอร์พูล ได้ โดยกองกลางรายนี้ ได้รับการยกย่องว่า เป็นกองกลางที่ครบเครื่องทั้งเรื่องบู๊ และเรื่องบุ๋น จึงทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องการคว้าตัวมาจาก ไลป์ซิก อย่างไรก็ตามในตอนนี้ เกอิต้า ก็ยังไม่สามารถงัดฟอร์มที่เก่งกาจให้กับทาง ลิเวอร์พูล ได้เหมือนกับตอนที่ค้าแข้งอยู่กับ ไลป์ซิก และเจ้าตัวเองก็มีปัญหาทางด้านสภาพร่างกายโดนอาการบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้งจนทำให้สาวกของลิเวอร์พูล เริ่มสงสัยแล้วว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าหรือไม่
อันดับที่ 2 อลิสซอน เบ็คเกอร์ (ค่าตัว 66.8 ล้านปอนด์)
ยอดนายประตูทีมชาติบราซิล รายนี้ถือว่าเป็นการซื้อตัวที่ถูกจุดของ ลิเวอร์พูล อย่างแท้จริง อลิสซอน ได้เข้ามาแก้ปัญหาในตำแหน่งผู้รักษาประตูที่ขาดมาตลอดหลายปีของ “หงส์แดง” ได้อย่างยอดเยี่ยม และเขาก็ได้ทำให้เพื่อนร่วมทีมทุกคน รวมถึงไปถึงเหล่าแฟนบอลอุ่นใจได้ทุกครั้งเมื่อเขาได้ลงเฝ้าเสา ตัวของ อลิสซอน มีคุณสมบัติของโกล์สมัยใหม่อย่างแท้จริงเพราะเขามีทั้งปฏิกิริยาที่ถือว่ารวดเร็ว การใช้เท้าที่คล่องแคล่ว การเปิดบอลสั้น การเปิดบอลยาวได้อย่างแม่นยำ
อันดับที่ 1 เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (ค่าตัว 75 ล้านปอนด์)
ฟาน ไดจ์ค ถูกดึงตัวเข้ามายังถิ่นแอนฟิลด์ในเดือนมกราคมในช่วงปี 2018 ด้วยค่าตัวมากมหาศาลถึง 75 ล้านปอนด์ แต่ทว่าเงินที่ “ลิเวอร์พูล” ได้จ่ายให้กับทาง เซาธ์แฮมป์ตัน นั้นก็ถือว่าได้รับคืนมาทุกบาททุกสตางค์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทัพหลังของทีมชาติฮอลแลนด์ ได้เข้ามายกระดับเกมรับของ ลิเวอร์พูล ได้อย่างดีเยี่ยม ตัวของเขาทำให้เพื่อนร่วมทีมพัฒนาฟอร์มขึ้นตามไปได้ด้วย และ ฟาน ไดจ์ค ก็ถือว่าเป็นกัปตันในเกมรับของ ลิเอร์พูล อย่างแท้จริง
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
แคมป์ทัพตราไก่วุ่น กรีซมันน์อาจลาทีมหลังจบเกมอุ่นเครื่อง
ทีเด็ดฟุตบอลประจำวันที่ 21 มีนาคม 2566
